อยาก อายุยืน ทำอย่างไร ?
อายุยืน เริ่มต้นที่ อาหาร
อายุยืน เริ่มต้นด้วยอาหารที่เรารับประทานเข้าไป แต่ในการที่จะรับประทานอาหารนั้น ก็มีศาสตร์ในการบริโภคอยู่ เรามาดูกันว่า เราจะปฏิบัติต่ออาหารที่เราจะรับประทานอย่างไรดี จึงจะส่งผลให้เรามี “อายุยืน” อาหารเป็นเครื่องหล่อเลี้ยงชีวิตให้ดำรงอยู่ได้ก็จริง แต่ชนิดและคุณภาพของอาหารต่างหากที่เป็นเครื่อง บ่งบอกคุณภาพชีวิต ร่างกายดำรงอยู่ได้เพราะการมีชีวิตของเซลล์นับล้านๆ เซลล์ ชีวิตจึงอยู่ได้ด้วยชีวิต และเซลล์ที่มีชีวิตชีวาเท่านั้นที่จะนำมาสู่ร่างกายที่แข็งแรงและสมบูรณ์ อาหารอายุยาวหรืออาหารที่ผ่านกระบวนการแปรรูปและถนอมอาหารอาจเก็บไว้ได้หลาย ปี แต่ความมีชีวิตได้หมดไปแล้ว สิ่งที่คุณรับประทาน จึงเป็นเพียงซากอาหารที่ถูกเก็บรักษาไว้ไม่ให้บูดเน่าเท่านั้น ในขณะที่อาหารอายุสั้นอย่างผักสด ผลไม้สด ที่อาจเก็บไว้ไม่ได้เพียงไม่กี่วัน แต่กลับเต็มเปี่ยมด้วยพลังแห่งชีวิต ซึ่งเป็นพลังแห่งการเติบโตอีกด้วย
คนเรารับพลังแห่งการมีชีวิต (หรือที่ชาวจีนเรียกว่าพลังชี่) ผ่านทางพืชผัก เมล็ดธัญพืช และผลไม้ เพื่อต่อชีวิตให้กับเซลล์ (ที่มีการ เกิดและตายไปทุกวินาที) ในร่างกาย แต่มีเงื่อนไขประการเดียวว่าต้องไม่ผ่านการใช้ความร้อน หรืออีกนัยหนึ่งคือ การรับประทานสด นั่นเอง วิถีการกินอาหารสดเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า raw food หรือ living food เป็นแนวทางหนึ่งของการรับประทานอาหารแบบมังสวิรัติ เน้นปริมาณผักและผลไม้สดมากกว่า 75 เปอร์เซ็นต์ต่อมื้ออาหาร โดยงดรับประทานเนื้อสัตว์ทุกชนิด รวมทั้งนมและผลิตภัณฑ์จากนม ส่วนที่เหลืออีก 25 เปอร์เซ็นต์คือ การรับประทานอาหารปรุงสุก ประเภทคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน เช่น ข้าวกล้อง เผือก มัน ธัญพืชต่างๆ รวมทั้งโปรตีน เช่น เต้าหู้ เห็ด เป็นต้น
อายุยืน อยู่ที่อาหาร 3 ประเภทนี้ คือ
- ไม่ผ่านการปรุง (uncooked)
- ไม่ผ่านความร้อน (unheated)
- ไม่ผ่านกระบวนการแปรรูป (unpro cessed)
และถ้าเป็น ไปได้ ควรเลือกวัตถุดิบที่เป็นผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ (organic) ไม่ผ่านการใช้ยาฆ่าแมลง สารเคมี หรือมีการดัดแปลงทาง พันธุกรรม ตามแนวทางของ living food เชื่อกันว่า อาหารที่ผ่านความร้อน ผ่านการปรุง หรือผ่านการแปรรูปนั้นเป็นอาหารที่ตายแล้ว(dead food) ไม่มีคุณค่าพอที่จะรับประทานเพื่อต่อชีวิตอย่างมี คุณภาพ ดังนั้นการรับประทานอาหารที่มีความสด (living nourish living food) โดยไม่ผ่านกระบวนการดังกล่าวจะช่วยสงวนเอนไซม์ ความมีชีวิต และคุณค่า อาหารต่างๆ เอาไว้ ทำให้เซลล์ในร่างกายได้รับสารอาหารและพลังชีวิตต่างๆ อย่างเต็มที่ในปริมาณที่ร่างกายต้องการ นำไปสู่การทำงานอย่างกระฉับกระเฉงและเต็มประสิทธิภาพมากกว่าอย่างไรก็ดี การกินสดยังมีแนวทางแยกย่อยเป็นหลายประเภท ดังนี้
- Living food แม้จะยึดหลักการสำคัญคือการรับประทานผักและผลไม้สดเป็นหลัก แต่ก็ยังมีรายละเอียดปลีกย่อยที่ต่างกันออกไป อาทิ Sproutarian คือการรับประทานอาหารสดที่เน้นการกินต้นอ่อน (sprout) เช่น ต้นอ่อนข้าวสาลี ต้นอ่อนทานตะวัน ถั่วต่างๆ ที่เพาะให้งอกเป็นหลัก ร่วมกับการ รับประทานผักสดและผลไม้สด
- Fruitarian คือการรับประทานผลไม้เป็นหลักอย่างน้อย 75 เปอร์เซ็นต์ของอาหารทั้งหมด นอกจากนั้น อาจเป็นผักสด ต้นอ่อน หรือถั่วต่างๆ ที่เพาะให้งอก
- Liquidarian คือการดื่มเครื่องดื่มเป็นหลัก เช่น น้ำผลไม้ มักทำในระยะสั้นเช่น 1 – 2 สัปดาห์เพื่อการล้างพิษ แต่ไม่นิยมปฏิบัติ ต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ
- Raw fooder คือการรับประทานผักสด ผลไม้สด ต้นอ่อน หรือถั่วที่เพาะงอก 75 เปอร์เซ็นต์ของอาหาร ทั้งหมด หากไม่เคร่งครัดมากอาจดื่มนม (ที่ไม่ผ่านการต้ม) ด้วยก็ได้ เรียกว่าเป็นแนวทางแบบ lacto vegetarian
- Living fooder เป็นแนวทางที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เน้นการรับประทานผักสด ผลไม้สด ต้นอ่อน ถั่วที่เพาะงอก แต่ที่พิเศษกว่าแนวทางอื่นคือสามารถรับประทานอาหารที่หมักด้วยจุลินทรีย์ เช่น มิโสะ เต้าเจี้ยว ผักดองด้วยเกลือ รวมทั้งอาหารที่ทำให้แห้งด้วยแสงแดด เช่น ผลไม้แห้ง สาหร่ายได้ด้วย
แนวทางเหล่านี้กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาและยุโรป ดาราฮอลลีวู้ดที่บริโภคมังสวิรัติก็ยังต้องหันมาปรับสู่โปรแกรมนี้ และปริมาณร้านอาหารประเภท living food ก็เพิ่มมากขึ้น โดยเชฟชื่อดังต่างก็หันมาดัดแปลงและสร้างสรรค์เมนู living food ให้มีความอร่อยไม่แพ้อาหารที่ปรุงสุก
กินสด ดีอย่างไร ดีจริงหรือ
ในพืชผักแต่ละ ชนิดจะมีพลังแห่งความมีชีวิตอยู่ สิ่งเหล่านั้นเรียกว่าเอนไซม์ ผักยิ่งสดยิ่งมีเอนไซม์หรือพลังชีวิตมาก แต่หากยิ่งเก็บไว้นาน ความมีชีวิตก็ยิ่งลดลง รวมทั้งหากจะนับข้อดีของการรับประทานพืชผักผลไม้สด ให้คุณค่าหลายประการ ทั้งต่อสุขภาพ สังคม และเศรษฐกิจ ขอยกตัวอย่างเช่น
- อาหารมีรสชาติดีกว่า เพราะการรับประทานสดคุณจะได้รับความหวาน ความกรอบจากผักสดอย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องสูญเสียวิตามิน เกลือแร่ เอนไซม์ ฯลฯ ไปกับกระบวนการปรุงอาหาร
- ระบบย่อยอาหารสมบูรณ์ อาหารสดจะช่วยให้ร่างกายย่อย ได้ง่าย ใช้เวลาน้อย และดูดซึมไปเลี้ยงร่างกายได้ทันที ไม่มีของเสียเหลือตกค้างเหมือนอาหารที่ผ่านการปรุงซึ่งย่อยยากและใช้เวลา นานกว่า อีกทั้งยังเหลือของเสียตกค้างในลำไส้ กลายเป็นอาการเสียดท้อง ท้องอืด หรือโรคต่างๆ ในระบบย่อยอาหาร
- สุขภาพแข็งแรง ไม่ป่วยง่าย เมื่อระบบย่อยอาหารทำงานเป็นปกติ นั่นก็เท่ากับลดสาเหตุของโรคภัย ต่างๆ ไปกว่าครึ่งนอกจากนั้นการได้รับสารอาหารต่างๆ อย่างสมบูรณ์ก็ย่อมทำให้ร่างกายแข็งแรง ทำงานมีประสิทธิภาพ ภูมิคุ้มกันดี ไม่ป่วยง่าย นอกจากนี้ยังลดความเสี่ยงในการเป็นโรคเรื้อรังต่างๆ ที่มีสาเหตุมาจากไขมันหรือน้ำตาลส่วนเกิน เช่น โรคหัวใจ โรคความดันโลหิต โรคหลอดเลือด โรคเบาหวาน รวมทั้งโรคที่มาจากอนุมูลอิสระหรือการที่เซลล์เสื่อมสภาพ เช่น โรคมะเร็งต่างๆ ได้ด้วย (เพราะการปรุงอาหารที่ผ่านความร้อนสูงเป็นการเพิ่มกระบวนการออกซิเดชัน ทำให้เกิดอนุมูลอิสระมากยิ่งขึ้น)
- คุณภาพชีวิตดีขึ้น นอกจากความแข็งแรงของสุขภาพแล้ว อาหารที่รับประทานสดยังช่วยให้คุณรู้สึกมีพลัง ความคิดเฉียบแหลม นอนหลับได้สนิท และมีความสุขมากยิ่งขึ้น
- ใช้เวลาปรุงน้อย อาหารประเภทนี้ทำได้ง่าย และไม่ต้องใช้เวลานาน แม้แต่เด็กๆ ก็สามารถทำได้ ซึ่ง เป็นการเพิ่มความมั่นใจให้กับเด็กๆ ได้อีกทางหนึ่งด้วย
- ไม่ต้องเก็บกวาดห้องครัว นอกจากคุณไม่จำเป็นต้องลงทุนซื้ออุปกรณ์ต่างๆ ในครัวแล้ว ยังช่วยลด ปัญหาการทำความสะอาดห้องครัวที่เลอะเทอะให้ง่ายเหมือนการเนรมิตได้ในพริบตา
- ประหยัด เมื่อคุณรับประทานสด คุณจะสามารถลดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับอาหาร เช่น อุปกรณ์ในครัว เครื่องปรุงรส สุขภาพที่ดีขึ้นก็ช่วยให้คุณประหยัดค่าอาหารเสริม ค่ารักษาพยาบาลต่างๆ อีกทั้งยังช่วยให้มีเงินเหลือเก็บมากขึ้นด้วย
- ลดการใช้พลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อม ถ้ามีคนรับประทานอาหารสดมากๆ ต่อไปก็คงไม่ต้องมี อุตสาหกรรมที่แปรรูปอาหารเป็นอาหารกระป๋อง ไม่ต้องมีการตัดต้นไม้มาทำกล่องกระดาษเพื่อเป็นบรรจุภัณฑ์ นอกจากนี้คาร์บอนไดออกไซด์ในบรรยากาศก็จะลดลงเมื่อเราหยุดการก่อไฟ (รวมถึงเตาแก๊ส) เพื่อปรุงอาหาร จะมีก็แต่ออกซิเจนที่เพิ่มขึ้น เพราะผู้คนหันมาปลูกพืชผักสวนครัวปลอดสารเคมีเอาไว้รับประทาน ปรากฏการณ์เรือนกระจกก็จะไม่ใช่ปัญหาใหญ่อีกต่อไป
- ได้รับ “คลอโรฟิลล์” เต็มที่ ไม่สูญไปเพราะความร้อน ซึ่งจะไปทำลายคุณค่าของผักผลไม้สด
กินสด กินดิบได้ แต่ต้องกินเป็น จึงจะ “อายุยืน”
ความจริงเรื่องการกินสดไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ เพราะมนุษย์ยุคเริ่มต้น ก็กินอาหารโดยไม่ผ่านการปรุง แม้แต่คนไทยเอง ก็มีเมนูอาหารหลายชนิด ที่เอื้อต่อการรับประทานพืชผักสดปริมาณมากๆ และหลากชนิด เช่น น้ำพริก หลนเคียงกับผักสด เมี่ยงคำ ส้มตำ หรือวัฒนธรรมการรับประทานผัก คู่กับการรับประทานอาหารทุกชนิด คราวละกระจาดใหญ่ของชาวไทยภาคใต้ อย่างไรก็ตาม แนวความคิดนี้อาจเป็นอีกทางเลือกหนึ่งเพื่อสุขภาพ
ดังนั้น ผู้ที่ต้องการทดลองควรศึกษาและทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเสียก่อน เพราะการรับประทานผักผลไม้ที่มากถึง 75 เปอร์เซ็นต์ต่อวันอาจไม่ได้เหมาะกับสุขภาพของทุกคน โดยเฉพาะผู้ป่วยหรือสตรีมีครรภ์ผู้มีปัญหาสุขภาพ อาจปรึกษาแพทย์ก่อนทดลอง แต่หากคุณต้องการเปลี่ยนสุขภาพด้วยแนวทางใหม่ อาจเริ่มต้นโดยการเพิ่มปริมาณผักสดรวมทั้งค่อยๆ ลดอาหารที่ปรุงสุกลง จนกระทั่งอาหารสดมีสัดส่วนมากกว่าอาหารที่ปรุงสุกและมากขึ้นเรื่อยๆ ในแต่ละวัน โดยดัดแปลงรับประทานในรูปแบบของน้ำคั้นบ้าง ยำบ้าง สลัดบ้าง เพื่อไม่ให้เกิดความจำเจ ผักสดปริมาณมากๆ อาจทำให้เกิดลมในท้อง ดังนั้นอย่าลืมที่จะเพิ่มสมุนไพรต่างๆ เช่น ขิง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด พริก สะระแหน่ลงไปเพื่อช่วยเพิ่มความสมดุล
นอกจากนี้ การหลีกเลี่ยงสารพิษ อันเป็นพิษภัยจากการ “กินดิบ” เป็นสิ่งที่ควรตระหนักที่สุด ก่อนที่จะ ตัดสินใจเลือกเดินในแนวทางนี้ สิ่งที่ควรต้องสังเกต อย่างเช่น เชื้อราที่แฝงอยู่ในผักเขียวๆ ทางที่ดีควร รับประทานให้หมดวันต่อวัน เช่นเดียวกับเนื้อปลาและเนื้ออื่นๆ ที่สามารถรับประทานสดๆ สังเกตที่ภาชนะว่า ผักเริ่มคายน้ำออกมามากเกินไป แสดงว่าไม่สดและเสี่ยงต่อเชื้อโรคแอบแฝงด้วย
…หากคุณเชื่อว่าชีวิตอยู่ได้ด้วยชีวิต อย่าละเลยที่จะเพิ่มพลังชีวิตให้กับตัวเอง เพราะนั่นจะยิ่งเพิ่มความหมายให้การมีชีวิตยืนยาวเกิดขึ้นควบคู่ไปกับการอยู่อย่างมีคุณภาพ
คุณค่าของผักสด ส่งผลโดยตรงให้ “อายุยืน”
หอมหัวใหญ่ ป้องกันการติดเชื้อ ป้องกันมะเร็ง หอบหืด ลดความดัน คอเลสเตอรอล คะน้า ป้องกันมะเร็ง ภูมิแพ้ ล้างพิษ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความแก่ กระตุ้นภูมิคุ้มกัน พริก เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันมะเร็ง ภูมิแพ้ บำรุงระบบประสาท บีทรู้ท ป้องกันมะเร็ง ล้างพิษ กระตุ้นภูมิคุ้มกัน เพิ่มออกซิเจนให้เซลล์ ชะลอความแก่ แอ๊ปเปิ้ล ล้างพิษ ลดคอเลสเตอรอล ส้ม เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันโรคหัวใจ ลดคอเลสเตอรอล กีวีฟรุต เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ แครอท ป้องกันมะเร็ง เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ บำรุงผิวและสายตา ล้างไขมัน ช่วยการ ทำงานของตับ
นายแพทย์เฉก ธนะสิริ ได้สรุปใจความในเรื่องการกินอาหารเพื่อสุขภาพไว้ว่า
อยากมี อายุยืน ยาว จงกินอาหารอายุสั้น หากอยากมีอายุสั้น จงกินอาหาร อายุยืน ยาว
ขอบคุณข้อมูลดี ๆ เพื่อให้ “อายุยืน” จาก : ธนาคารกสิกรไทย